รีวิว through the darkness มองทะลุถึงด้านมืดในจิตใจฆาตกร วิเคราะห์พฤติกรรมของอาชญากรผ่านวิธีการทางจิตวิทยา
รีวิว through the darkness สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ต้องถูกอกถูกใจคอสืบสวน ซึ่งจะต้องเตรียมหัวจะปวดกัน ตั้งแต่ต้นปีไปกับ Through The Darkness ซีรีส์ทริลเลอร์อาชญากรรมสายดาร์ก ที่ได้เป็นเรื่องใหม่จากช่อง SBS โดยมี คิมนัมกิล พระเอกมากฝีมือ โดยได้เป็นคนนำทีมสำรวจ เข้าไปยังเบื้องลึกภายในจิตใจของคนร้าย ที่ได้มีการก่อคดีสะเทือนขวัญมานับไม่ถ้วน โดยผ่านวิธีการทำงานของ โปรไฟเลอร์ (Profiler) หรือ นักวิเคราะห์จิตวิทยาอาชญากร
และด้วยเรตติ้งผู้ชมที่พุ่งสูงถึง 7.5% เพียงตอนที่สองซึ่งออกอากาศผ่านไป ก็คงพอเป็นเครื่องการันตี ของความน่าสนใจของเรื่องนี้ ได้โดยไม่ต้องพูดอะไรกันมากเลยแหล่ะ เพราะในหลายๆครั้งเอง ที่เรามักได้ยินชื่อ ‘อาชีพ’ แปลกใหม่ไม่คุ้นหูจากซีรีส์เกาหลี เพราะไม่ว่าจะเป็น ‘ผู้ตรวจการลับ’ จาก Royal Secret Agent ในปี 2020, ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกวาด ทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุ’ จาก Move to Heaven
และ ‘เรนเจอร์’ จาก Jirisan ในปี 2021 ส่วนในปี 2022 นี้ เราขอพาคอซีรีส์ทุกคนไปรู้จักอาชีพ ‘โปรไฟเลอร์’ จากซีรีส์ Through the Darkness (2022) กัน บอกเลยว่างานนี้ คอซีรีส์สืบสวน จะต้องถูกใจอย่างมาก เพราะอาชีพใหม่ล่าสุด ของตำรวจสายสืบ ที่ผ่านคดีฆาตกรรมมากมาย การที่จะหาคนร้ายตัวจริง ที่ก่อเหตุอาชญากรรมร้ายแรง ว่าเบื้องลึกของใจคนร้ายนั้น มีความคิดอย่างไร หรือมีปมอย่างไรที่ทำให้ก่อเหตุ ได้สะเทือนขวัญขนาดนี้
รีวิว through the darkness เรื่องย่อซีรีส์
สำหรับสายสืบสุดเก่งอย่าง ซงฮายอง (Kim Nam Gil/คิมนัมกิล จากซีรีส์ The Fiery Priest, The Great Queen Seondeok และหนัง Portrait of a Beauty ) ที่ได้มีปัญหา กับเจ้านายอยู่บ่อยครั้งจนต้องย้ายพื้นที่บ่อย เพราะมาอยู่ที่ใหม่ ก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ซึ่งจากที่เขาพบเจอพฤติกรรม อันย่ำแย่ของหัวหน้า แต่ทว่าก็ไม่อาจจะทำอะไรได้
ซึ่วเมื่อเกิดเหตุฆาตกรหมวกแดง ที่ได้มีการออกฆ่าคนอย่างอุกอาจ ซึ่งหัวหน้าใช้กำลังบังคับ ให้ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ ทั้งที่ตัวเขาคนนั้นเองไม่ได้ทำผิด เขาจึงเลือกที่จะสืบหาความจริงด้วยตนเอง จนในที่สุด ความจริงก็ปรากฏ จึงทำให้ฆาตกรตัวจริงถูกจับ
แต่เขากำลังจะเดินออกไปพบกับ ความไม่แน่นอนครั้งใหม่โดย กุกยองซู หรือหัวหน้ากุก (Jin Sun Kyu/จินซอนกยู จากซีรีส์ Kingdom และหนัง Space Sweepers และ Extreme Job)
ที่เขาเองก็กำลังพยายามก่อตั้งทีมใหม่ ‘ทีมวิเคราะห์พฤติกรรม’ ที่อยู่ภายใต้แผนกสืบสวน ซึ่งจะเป็นทีมที่เก็บรวบรวมสถิติข องอาชญากรเพื่อใช้เป็นข้อมูล ในการป้องกันอาชญากรรม ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเขามองเห็นแววความเป็น นักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากร ในตัวของฮายองอย่างเต็มเปี่ยม จึงได้เอ่ยปากชวนมาอยู่ด้วย แม้ช่วงเริ่มต้นตั้งทีมจะขลุกขลักอยู่มากก็ตาม
โดยสำหรับซงฮายองเอง ก็ได้กลายเป็น โปรไฟเลอร์ด้านอาชญากรรม ผู้ที่ต้องอ่านให้ทะลุไป ถึงจิตใจของเหล่าอาชญากร โดยเขาต้องเข้าไปพูดคุย กับคนพวกนี้ถึงในคุก ทั้งต้องออกมาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญ ในการช่วยเหลือ
ทีมสืบสวนอาชญากรรม ที่หนึ่งทีมในนั้น มีหัวหน้าเป็นหญิง ยุนแทกู หรือหัวหน้ายุน (Kim So Jin/คิมโซจิน จากซีรีส์ Marriage Contract และหนัง Emergency Declaration) นอกจากนี้ ทีมของหัวหน้ากุก ก็ยังได้เด็กหนุ่มไฟแรงอี กคนมาร่วมงาน เขาคือจองอูจู (Ryeo Un จากซีรีส์ 18 Again และ Doctor Prisoner) ที่ได้เป็นนักวิเคราะห์สถิติ
ที่เดิมก็สมัครมาร่วมทีม เพราะคิดว่ามันเท่ ทีมเล็กๆ ทีมนี้กลับต้องทำงานภายใต้ความกดดัน จากหลากหลายด้าน มาเอาใจช่วยให้เพื่อนร่วมงาน และผู้คนทั่วไปมองเห็นความสำคัญ ของพวกเขาไปด้วยกันเถอะ
การทำงานที่มุ่งเน้นงานตำรวจ ในด้านวิเคราะห์จิตใจอาชญากร
อาจจะดูเหมือนเป็น การทำงานทีมมาให้รูปแบบใหม่ เพราะคงไม่มีตำรวจคนไหนที่จู่ๆ ก็อยากจะลดตำแหน่งของตนเองลงไปหรอก แต่ถ้าไม่มีอุดมการณ์อันแรงกล้า แต่หัวหน้ากุกเป็นคนแบบนั้น เขาเองคงมองเห็นว่า งานสืบสวนคดีของตำรวจ ก็ยังมีช่องโหว่บางอย่าง ที่ทำให้ติดขัดไม่สามารถค้นหาตัวฆาตกรที่แท้จริงได้ [บางครั้งได้ตัวก็เป็นแค่แพะ จับซ้อมให้ยอมรับสารภาพอะไรแบบนั้น]
โดยทั้งยังอาจมองว่า ฆาตกรบางคนเองก็ไม่ได้มีแรงจูงใจ ในการฆ่าที่เห็นเด่นชัด ยิ่งตำรวจมีฐานข้อมูล มีความเข้าใจในจิตใจ ของคนพวกนี้มากเท่าไหร่ โอกาสจะสืบพบตัวก็ง่ายและรวดเร็วขึ้น เขาจึงคิดว่า ตำรวจควรมีทีมวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากร
โดยเขามองเห็นความสามารถ และความเหมาะสมในตัวซงฮายอง สายสืบที่มีปัญหา กับผู้บังคับบัญชาไปทั่ว ก็จะไม่ให้เป็นเช่นนั้นได้ยังไง เจ้านายเล่นซ้อมผู้ต้องสงสัย มีการบีบให้รับสารภาพแบบนั้น มันจะไปเจอฆาตกรตัวจริงได้ยังไง แถมยังทำให้แพะต้องติดคุกไปฟรีๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำความผิดอีกต่างหาก
โดยการวิเคราะห์จากตัวสายสืบฮายองผู้นี้ เขามีคุณลักษณะหลายประการ ที่เหมาะสมและพึงมี ไม่ว่าจะเป็น การเป็นคนมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ มีใจเปิดกว้าง มีความรู้ วิเคราะห์อย่างมีเหตุผล แยกแยะความรู้สึกส่วนตัวออกไปได้ และคุณสมบัติที่สำคัญ ก็คือ ความอ่อนไหวทางอารมณ์ เมื่อเขามี เขาจะเข้าใจผู้อื่น และด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ เขาจะมองเห็นและเข้าใจสิ่งที่อาชญากรคิดได้
มีหลายคดีสะเทือนใจมาให้ช่วยไข ในระหว่างการเดินทางของทีม
ต้องบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากจะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา และการดิ้นรนเพื่อจะคงอยู่ของ ทีมวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรแล้ว ก็ยังเลือกเล่าถึงคดีสะเทือนขวัญต่างๆ ไปพร้อมกันด้วย โดยเลือกคดีมาเล่าล้อกัน ไปกับพัฒนาการของทีมวิเคราะห์พฤติกรรม เช่นก่อนจะมีการจัดตั้ง ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการทำให้ผู้ชมรู้จักกับซงฮายองเสียก่อน แปะหัวคร่าวๆ ด้วยเหตุในวัยเด็ก แล้วก็ต่อมาที่เรื่องราวตอนโต ของตำรวจสายสืบ ผู้มีทักษะการวิเคราะห์ขั้นเทพ
แต่ได้ไปอยู่กับหัวหน้า แต่ละคนที่แสนห่วย ภารกิจสุดท้ายก่อนถูกทาบทาม บ่งบอกถึงความคิดความอ่านที่แตกต่าง เขาเลือกจะเดินเข้าไป คุยกับนักโทษแลกกับเงิน อันเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทั้งกลายเป็นวิพากษ์วิจารณ์ ของผู้คนการจับผู้ร้ายตัวจริงได้สำเร็จ จึงได้กลายเป็นผลงานที่เตะตาหัวหน้ากุก ทั้งเป็นการเตะปากเจ้านายที่ดี แต่จับแพะไปวันๆ พร้อมทั้งยังเป็นการช่วยเพื่อน ให้กลับออกมานอกคุกได้อีกครั้ง
เพราะหลังการต่อสู้มาอย่างยาวนาน ของหัวหน้ากุก ในที่สุด ก็ถึงเวลาของการจัดตั้งทีม แต่ก็เหมือนอธิบดีจะยอมไปงั้นๆ พวกเขามีกันแค่สามคน [รวมทั้งนักวิเคราะห์สถิติหนุ่มผู้มาใหม่] ได้ออฟฟิศอันร้อนอบอ้าว ทั้งยังต้องเผชิญกับความไม่ชอบใจ ของเหล่าเพื่อนตำรวจ ฝ่ายอาชญากรรมที่มองว่าพวกเขา เป็นส่วนเกินที่มาแย่งงาน มองไม่เห็นความสำคัญ ไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังทำอะไร
แต่ละคดีโคตรยาก จนแทบเอาตัวไม่รอด แต่ก็พยายามเต็มที่ ร่วมช่วยไขคดีจนลุล่วงบ้าง พบเจอความตีบตันจนใกล้จะถูกยุบทีมบ้าง คดีต่างๆ ดูแล้วก็น่าจะอ้างอิงมาจากเรื่องจริงและใส่เรื่องราวเพิ่มเติมเข้าไป ชวนให้คนดูรู้สึกสงสัยอยากรู้คำตอบ และอยากเห็นว่า พวกเขาจะใช้วิธีการใดเพื่อหาคำตอบ บอกเลยว่าแต่ละคดีนั้นมีความน่าสนใจ และน่าติดตามอย่างมากทีเดียว เพราะจิตใจของคนเรามันก็ยากที่จะเข้าใจ เรามาลองดูว่า ฆาตกรนั้นตะมองโลกแบบไหนบ้าง
ติดตามซีรีย์ใหม่ๆได้ที่ :
แนะนำสิ่งที่น่าสนใจ : คลิ๊ก