Tomorrow รีวิว วันพรุ่งนี้ ซีรีส์ที่ทำให้เรารู้จักชีวิตมากขึ้น ฉากแฟนตาซีสุดตะการตากับโลกหลังความตาย และยมทูต

Tomorrow รีวิว สำหรับซีรี่ส์ที่ถูกดัดแปลงมากจาก เว็บตูน (LINE WEBTOON) ซึ่งหลังจากที่ เว็บตูน Tomorrow ได้ทำการลงแฟลตฟอร์มไลน์ เว็บตูน (LINE WEBTOON) ได้ไม่นาน ทางตัวซีรีส์ก็ลงตามในเนตฟลิกซ์อย่างติด ๆ มาพร้อมด้วยหน้าปกโปสเตอร์ ทริลเลอร์ที่ดูมีสีสันที่ครบเครื่อง และหน้าตาหล่อสวยของนักแสดง อีกทั้งยังผลิตโดยสตูดิโอเอน (Studio N) และทางสตูดิโอของค่าย NAVER ที่ได้เป็นเจ้าของเรื่องออริจินัลมาเอง ทำให้เราตั้งความหวัง กับฉบับซีรีส์อยู่พอสมควร และมันก็ถือว่าสมกับที่ตั้งความหวังไว้หรือเปล่านะ

โดยเรื่องราวเกี่ยวกับ โลกหลังความตาย แนวแฟนตาซี ที่ได้แมสดงออกมาแบบ ทำให้คนดูอย่างเรา ต้องกลับมานั่งคิดทบทวนหลายๆเลยทีเดียว เพราะสำหรับซีรี่ส์เรื่องนี้ ซึ่งด้วยความที่มีความเกี่ยวข้องกับ โลกหลังความตาย ยมทูต และยมทูตกลุ่มนี้ ก็ดันเข้ามามีหน้าที่ ช่วยคนที่กำลังฆ่าตัวตาย คิดสั้น ให้กลับมาอยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกครั้ง ซึ่งมันค่อนข้างที่จะขัดกับความจริงที่เราเชื่อ เพราะเมื่อเราได้เห็นยมทูต เราก็ต้องคิดว่ายังไงต้องเกี่ยวข้อง กับความตายอย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้กลับจะต้องมาช่วยคนให้มีชีวิตอยู่นี่สิ

Tomorrow (2022) ซีรีส์แนวดราม่า ที่ตค้องบอกเลยว่า แต่ละตอนไม่มีตอนไหนเลย ที่ไม่ทำเราน้ำตาไหล เพราะด้วยปมของแต่ละคน ที่เหล่าบรรดายมทูตของเรา ต้องเข้าไปช่วย ทำเอาเราคนดูต้องรู้สึกอิน และน้ำตาไหลได้ทุกตอนจริงๆ ด้วยสภาวะจิตใจ ของคนที่คิดสั้น เราก็พอจพทราบดีว่ามันจะหนักหน่วงขนาดไหนแล้ว เมื่อเราได้รู้ถึงปมต่างๆ ที่ทำให้คนๆนึงคิดจะจากโลกไปนี้ไป มันยิ่งทำให้เราตะหนักอะไรได้หลายๆมากเลยทีเดียว บอกเลยว่าคุณจะเข้าใจ คนที่มีความคิดแบบนี้ได้มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน และสอนเรามากมายว่าคุณค่าของชีวิตของเรามันสำคัญมากแค่ไหน

Tomorrow รีวิว เรื่องย่อ

สำหรับเรื่องนี้ที่จะมีเรื่องราวของพระเอกของเราอย่าง ชเวจุนอุง ที่ได้เป็นชายหนุ่มคนธรรมดาทั่วไป ที่กำลังเฝ้ามองหาโอกาส ที่จะได้งานทำสักที แต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะยากเย็นสำหรับเขาไปเสียหมด เพราะถ้าไม่ใช่ว่าต้องเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่ได้รับการยกย่อง หรือว่าเกิดมาเป็นทายาทเศรษฐีนอนบนกองเงินกองทอง เขาคงจะไม่ต้องมาบากบั่นสู้ชีวิตอยู่เช่นนี้

และกระทั่งในคืนหนึ่งเขาได้บังเอิญ พบกับยมทูตที่มีนามว่า กูรยอน ซึ่งเธอเป็นยมทูตสาว ที่มีคู่หูทำงานด้วยก็คือ อิมรยองกู ทั้งสองเป็นยมทูตในแผนกการจัดการวิกฤตของมนุษย์ โดยได้มีภารกิจหน้าที่ของพวกเขาก็คือช่วยเหลือมนุษย์ ที่กำลังจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย โดยแข่งกับเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เพียงเสี้ยววินาทีที่ทำให้มนุษย์เหล่านั้น เปลี่ยนความคิดนี้ และบัดนี้ จุนอุงก็ได้กลายมาเป็นสมาชิกใหม่ อีกคนในแผนกนี้ด้วยสิ

และพระเอกของเรา มาพร้อมด้วยเงื่อนไข เมื่อกลับไปยังโลกมนุษยือีกครั้ง ร่างกายของจุงอุงจะเหมือนเดิม และมีงานทำตามที่ต้องการ ระยะเวลาอยู่ที่ 6 เดือนโดยที่ทีมการวิกฤติ ซึ่งได้เป็นทีมที่คอยช่วยเหลือผู้คน ที่มีสภาวะจิตใจติดลบ จนไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป โดยมีผู้ร่วมทีม กูรยอน รับบทโดย คิมฮีซอน ที่เป็นหัวหน้าทีม ผู้มีเคยตัดสินใจผิดพลาดเมื่อครั้งอดีต และ อิมรยูงกู รับบทโดย ยุนจีอน

ซึ่งได้เป็นผู้ที่กระทำความผิดอย่างรุนแรง และเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ แถมทั้งคู่เป็นยมทูต ที่คอยช่วยผู้คนเหล่านั้น โดยจะมีการแจ้งเตือน ให้ทราบว่าใครบ้างที่มีสภาวะติดลบจนน่าเป็นห่วง และเรื่องราวของการช่วยเหลือ ผู้คนเหล่านี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ไปติดตามกันที่ Netflix ได้เลยนะคะ เรื่องนี้จบแล้ว บอกเลยว่าเรื่องนี้ห้ามพลาด แม้จะดราม่าแบบหนักหน่วง แต่ก็แอบมีมุมน่ารัก มุมฮาๆให้เราได้คลายเครียดกัน

แนะนำตัวละครหลัก เหล่ายมทูตของเรา

1. คิมฮีซอน รับบทเป็น กูรยอน รับบทเป็น ยมทูตที่เป็นหัวหน้าทีมจัดการวิกฤติ ของแผนกจัดการวิญญาณ จากสำนักงานจูมาดึง โดยเธอได้เป็นหัวหน้าของ อิมรยูงกู และ ชเวจุนอุง ในการช่วยชีวิตผู้คน ที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตาย และเธอมีความลับบางอย่างเก็บซ่อนเอาไว้อยู่ในใจ

2. โรอุน รับบทเป็น ชเวจุนอุง ชายผู้ตกงานมาเป็นเวลา 3 ปี และดันเกิดอุบัติเหตุขึ้น ระหว่างที่เขาเข้าช่วยอีกคน ซึ่งกำลังจะกระโดดสะพาน จนทำให้เขาตกอยู่ในอาการโคม่า และด้วยสถานะของเขา ที่กึ่งเป็นกึ่งตาย จู่ ๆ เขาก็บังเอิญได้รับงานใน ทีมจัดการวิกฤติ ซึ่งหน้าที่ของเขา คือการช่วยให้คนที่อยากลาโลก ไปแล้วเปลี่ยนเป็นอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

3. อีซูฮยอก รับบทเป็น พัคจุงกิล เขาเป็นยมทูตผู้เยือกเย็น และมีเสน่ห์ ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมนำทางวิญญาณ แห่งสำนักงานจัดการวิญญาณจูมาดึง ซึ่งทีมนี้ ได้ถือว่าเป็นทีมที่รวมตัวยม ทูตระดับสูงของจูมา ดึงมาทำงานร่วมกัน ด้าน พัคจุงกิล เองก็ไม่เห็นด้วย กับการมีอยู่ของที มจัดการวิกฤติเพราะ เขาคิดว่าการฆ่าตัวตายคือความผิดพลาด ที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์

4. ยุนจีอน รับบทเป็น อิมรยูงกู อีกหนึ่งสมาชิกจากทีมจัดการวิกฤติ ที่จะมาทำงานเป็นคู่หูร่วมกันกับ ชเวจุนอุง อีกหนึ่งยมทูตที่ก็มีเรื่องที่ซ่อนเราเอาไว้เช่นกัน

มุมของหัวหน้ายมทูต ที่ทั้งสวย ทั้งเท่ กร้าวใจแบบสุดๆไปเลย

ซึ่งสำหรับเรื่องนี้เอง ที่แม้ว่าโดยรวม มันอาจจะไม่ได้ลำดับการเล่าเรื่องราวเรียง แบบที่จะออกมาได้แบบเป๊ะ ๆ แต่จะใช้วิธีการ “จับกลุ่ม”ของ เส้นเรื่องของฝั่งพระเอกที นางเอกที ซึ่งจะทำการแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง และเราเองก็ต้องยอมรับเลยว่า ในส่วนของวิธีเล่าฉบับซีรีส์นี้ ได้ทำการเสริมพลังความแฟนตาซี และ กลิ่นอายลึกลับแนวปริศนา ได้มากกว่าฉบับการ์ตูนอยู่มากเลยทีเดียว

เพราะในฉบับการ์ตูนนั้นเอง ที่จะทำเป็นเรื่องเริ่มขึ้นที่ฝั่ง ชเวจุนอุง ชายหนุ่มวัย 27 ปี ที่ได้เอาแต่เดินเตร็ดเตร่ด้วย ความเซ็งจิตเพราะตกงาน ซึ่งเขาได้ไปเจอเข้ากับชายไร้บ้าน ที่กำลังจะฆ่าตัวตาย และได้เจอคู่ยมทูตหญิง และชายที่โผล่เข้ามา จนทำให้เกิดเรื่องราวที่ทำให้เขาพลาดตกลง ไปในแม่น้ำฮันซะเองไปได้ซะนี่ เมื่อฟื้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพโคม่า และหญิงชายสองคนนั้น ก็ได้ทำการเสนองานยมทูตช่วยชีวิตคนให้เขาเสียแล้ว

เรียกได้ว่าเป็นการเล่าแบบรวด ๆ พรวด ๆ จากฝั่งพระเอกแบบใช้หมัดฮุก ให้เข้าพอยต์เรื่องเลย ในขณะที่ฉบับซีรีส์เอง ที่ไ้ทำการเรื่องเปิดด้วย การปฏิบัติหน้าที่ของทีมวิกฤต ของนางเอกก่อน ซึ่งทำให้เห็นว่าเรื่องราวที่ จะเล่าต่อไปนี้นะ เกี่ยวกับการช่วยคน จากการฆ่าตัวตายแน่ ๆ แล้วค่อยไปเล่าย้อน ให้เห็นฟากพระเอกว่าเป็นคนยังไง แล้วค่อยดึงมาว่าเกี่ยวข้องกันยังไง

เพราะก็อาจเพราะช่วงเวลา ที่จะทำให้คนตัดสินใจ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ของฉบับซีรีส์มีช่วงเวลา ที่ยาวนานกว่า แถมยังสามารถใช้องค์ประกอบศิลป์ ได้เข้ามามาดึงดูดได้เต็มที่ ผู้สร้างก็เลยเลือกวิธีนี้ในการเล่า ซึ่งเราก็ยอมรับเลยว่า ส่วนนี้มันประสบความสำเร็จ และมีผลดึงดูดคนดูซีรีส์ ที่จะมีความเน้นความสวยงามแฟนตาซี และอยากดูเรื่องที่ ดูแปลกตาไปได้ดีกว่าจริง ๆ

แต่ในขณะเดียวกันเอง ก็ได้จะเป็นการเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ ดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำให้ช่องว่าง ระหว่างฉบับการ์ตูน และซีรีส์ขยายกว้างมากขึ้น แทนที่เรื่องจะโฟกัสไปกับภารกิจ เพื่อความพรุ่งนี้แบบฉึบฉับ อินเร็วซึ้งเร็วแบบฉบับการ์ตูน ซีรีส์เองก็ได้มีการพยายาม ใส่เรื่องราวของโลกวิญญาณ “จูมาดึง” ลงไป จนโฟกัสของตัวละครที่เดิม อยู่กับที่ทีมวิกฤตสามคน ขยายวงออกกว้างไป เป็นตัวละครอื่น ๆ ให้เราเริ่มเลือก โฟกัสไม่ค่อยถูก

เพราะเดิมทีทั้ง คูรยอน หัวหน้ายมทูตหญิง ที่ดูเปรี้ยวซี้ดสุดคลู อิมรยุงกู ยมทูตชายหล่อสายซัปพอร์ต และ ชเวจุนอุง ยมทูตมือใหม่ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้สึกแบบพนักงานกินเงินเดือนที่เพิ่งมีสังกัดบริษัทเป็นครั้งแรก เพราะทั้งสามคนเอง ต่างก็มีความโดดเด่นไม่ต่างกันมากนัก แต่เมื่อมาอยู่ในฉบับซีรีส์ อิมรยุงกู (รับบทโดย ยุนจีอน) ดูจะได้รับการ “ลด” บทบาทไปอย่างเห็นได้ชัด

แต่คนที่ได้รับบทเด่นกับเป็นหัวหน้าทีมยมทูตคู่แข่ง พัคจุงกิล (รับบทโดย อีซูฮยอก) และประธาน “จูมาดึง” ซึ่งในซีรีส์เรียกว่าเป็น เง็กเซียนฮ่องเต้ (รับบทโดย คิมแฮซอค) ไปเสียเฉย ๆ เลยทำให้ความรู้สึก ของทีมวิกฤตดูเบาบาง ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวน่าเอาใ จช่วยเท่ากับในเว็บตูนเสียเท่าไหร่ ซึ่งเรื่องราวนี้จะเป็นอย่างไร และเรื่องราวของ หัวหน้าทีมจะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามกันได้ในซีรีส์ได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : intrend.trueid.net

ติดตามสิ่งที่น่าสนใจ : UFABET , แทงบอลออนไลน์

รีวิวซีรีส์เพิ่มเติม : Big Mouth รีวิว